ข้อแตกต่างสี RGB และ CMYK ที่หลายคนมองข้าม
หนึ่งปัญหาพื้นฐาน ที่แก้ไม่ตกระหว่าง ลูกค้า กับ นักออกแบบสิ่งพิมพ์/โรงพิมพ์ ก็คือระบบสี โดยปกติเเล้วเราก็อยากได้งานพิมพ์ของเรานั้นโดดเด่น มีสีสวยสด และฉูดฉาดตามที่เราเห็นในหน้าจอ แต่เมื่อเราสั่งพิมพ์ออกมาสีกลับออกมาจืดชืดไม่ถูกใจ ด้วยเหตุนี้เราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจระบบสี CYMK และ RGB เพื่อที่เราจะได้เลือกใช้ขอบเขตของสีให้เหมาะสมกับประเภทของงาน
ระบบสี CMYK และ RGB คืออะไร?
CMYK (C= Cyan, M= Magenta, Y= Yellow, K= Black or Key) คือระบบสีของสารที่ใช้สำหรับงานพิมพ์ โดยเครื่องพิมพ์จะพิมพ์ชิ้นงานออกมาโดยการผสมสีจาก 4 สีหลัก โดยให้นึกภาพง่ายๆ ว่า เราเริ่มต้นจากกระดาษเปล่าสีขาวแทนความสว่าง แล้วเมื่อเราเติมสีลงไป เราก็จะมองเห็นสีขาวได้น้อยลง แล้วเมื่อเราต้องการผสมสีที่เราต้องการ เราก็จะต้องเติมสีด้วยอัตราส่วนที่กำหนดลงไปอีก ทำให้สีขาวจากจุดเริ่มต้นก็จะหายไปเรื่อยๆตามสัดส่วนที่เราเติมลงไปจนสีขาวถูกแทนที่ไปจนหมด จึงทำให้เราเห็นเป็นสีดำ หลักการนี้เราเรียกว่า "การผสมสีแบบลบ" คือการที่แสงขาว ถูกดูดกลืนด้วยอนุภาคเม็ดสีไปเรื่อยๆจน แสงขาวถูกดูดกกลืนจนหมด เช่น สีแดง (Maganta) คืออนุภาคที่ดูดกลืนสเปกตรัมของเเสงทุกสี ยกเว้นสีแดง ทำให้เราเห็นสีแดงสะท้อนเข้าตาเรา
RGB (R= Red, B= Blue, G=Green) คือระบบสีของแสงที่เกิดจากจุดกำเนิดแสงที่ปล่อยความยาวคลื่นที่ต่างกัน เเล้วนำสีที่ได้นั้นมารวมกัน ครั้งนี้ให้นึกภาพง่ายๆ โดยใช้ความเข้าใจเรื่องของปริซึมของแสงเข้ามาช่วย เราเริ่มต้นจากหนา้จอสีดำ เมื่อเราต้องการหนา้จอสีฟ้า แหล่งกำเนิดแสงในหน้าจอก็จะปล่อยความยาวคลื่นสีฟ้าออกมา เมื่อเราผสมสี RGB ไปเรื่อยๆจนครบทุกความยาวคลื่นของเเสงแล้ว ผลที่ได้ออกมาจะเป็นหน้าจอสีขาว หลักการนี้เราเรียกว่า "การผสมสีแบบบวก"
การนำระบบสี CYMK และ RGB ไปใช้
1. การนำสี CMYK ไปใช้ อย่างที่ทราบว่า CMYK คือการผสมสีของสารสี สีที่ได้อาจจะไม่ได้สดใส แวววับเหมือนที่เราเห็นบนหน้าจอ ดังนั้นสี CMYK จึงถูกนำไปใช้กับงานออกแบบสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ที่ไม่ใช่เกี่ยวกับงานที่มองหน้าจอ เช่น
1.1. Branding
- นามบัตร
- ป้ายบริษัท
- สติกเกอร์ฉลากสินค้า
1.2. สื่อสิ่งพิมพ์
- ป้าย Roll Up
- ไวนิล
- สติกเกอร์ติดกระจก
- โบรชัวร์
1.3. สินค้าและผลิตภัณฑ์งานบรรจุภัณฑ์
- เสื้อผ้า, หมวก, เครื่องแต่งกาย
ของชำร่วยเช่น พิมพ์สีลงบนแก้ว,ปากกา
2. การนำสี RGB ไปใช้ อย่างที่ได้กล่าวไปว่าสี RGB เป็นสีที่เกี่ยวกับแสดงผลของหน้าจอ ดังนั้นงานที่เกียวข้องก็จะเป็นงานที่ต้องมองบนมือถือ, ทีวี เช่น
2.1. BrandingWebsite
- Online Logo
- Webpage
2.2. Visual Contentdigital graphic
- infographic
- motion video
- รูปภาพสำหรับ โฆษณาออนไลน์
ไฟล์ที่เหมาะสมสำหรับสี CMYK และ RGB
เมื่อเราต้องการบันทึกงานไปให้ร้านพิมพ์ หรือร้านผลิตสินค้าต่างๆ อันดับแรกคือเราต้องตรวจสอบค่าสีของเราว่า เราได้กำหนดค่าสีในไฟล์ของเราเป็น CMYK color mode หรือยัง เมื่อเรากำหนดค่าสีเเล้ว ไฟล์ที่แนะนำก็คือ
PDF = รูปแบบไฟล์ยอดนิยมที่สามารถเปิดได้ง่าย และสามารถนำไปใช้ร่วมกับโปรแกรมอื่นได้มากมาย
AI หรือ EPS = ไฟล์ที่นักออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ชอบใช้ เนื่องจากสามารถทำไฟล์งานเป็นลายเส้น(vector) ซึ่งง่ายต่อการนำไปใช้ในการผลิต
ในทางกลับกันเมื่อเราต้องการทำโฆษณาออนไลน์ต่างๆ เราต้องใช้สี RGB ดังนั้นไฟล์ยอดนิยมที่ใช้กันก็คือ
JPEG = รูปแบไฟล์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกวงการ
PSD = ไฟล์ที่ใช้มากในการรีทัชรูปภาพเพื่อสร้าง visual contents
ข้อควรระวัง!!
- อย่าลืมเปลี่ยนระบบสี RGB เป็น CMYK ทุกครั้งเมื่อจะส่งงานร้านพิมพ์
- สีบางสีในระบบ RGB ไม่สามารถนำมาพิมพ์ได้ เช่น สีนำเงินสดๆ หรือสีชมพูสดๆ ดังนั้น"การเลือกเฉดสีที่เหมาะสมแทนก็สามารถให้งานพิมพ์ออมาสวยได้"
- สีงานพิมพ์กับสีบนหน้าจอ อาจะไม่เหมือนกัน ถ้าต้องการสีที่ต้องการจริงๆ ควรปรู๊ฟสีหน้าเครื่องก่อน
- เครื่องพิมพ์แต่ละเครื่อง ก็อาจจะพิมพ์สีเดียวกันออกมาได้ไม่เหมือนกัน เนื่องจากหมึกพิมพ์คนละชนิด/ผู้ผลิต
เมื่อเราเข้าใจระบบสีเบื้องต้นอย่างนี้เเล้ว เราจะได้เลือกสีให้ถูกกับงานกันนะครับ